ปัจจุบันมีผู้เข้าใจว่าการเลือกซื้อ UPS นั้นพิจารณาเพียงขนาด (VA), ระยะเวลาสำรองไฟ (Backup Time) และราคา ก็น่าจะครบถ้วนแล้ว แต่ในความเป็นจริงยังมีปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณาประกอบการเลือกซื้อ UPS อีกหลายข้อ ที่สำคัญมันคืออุปกรณ์หน้าด่านแรกๆ ที่รับมือกับอาการร้ายแรงทางไฟฟ้าทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นไฟตก ไฟดับ ไฟกระชาก ฟ้าผ่า เพาเวอร์ของผมเคยเจ๊งไปต่อหน้าต่อตาด้วยสาเหตุจากไฟดับในช่วงฝนตก และตามมาด้วยไฟกระชาก (ไฟกระชากก็คือ ไฟติดแล้วก็ดับอีก) เพราะไม่มี UPS ทำให้ต้องเสียบไฟตรงเมื่อไฟดับ และไฟเข้ามาอีก กระชากกันต่อเนื่อง 2-3 ครั้งส่งผลให้อุปกรณ์นั้นพังในทันทีครับ นั่นคือเรื่องของไฟกระชาก ถ้าเป็นฟ้าผ่าล่ะครับ เคยเจอกันบ้างไหม เคยได้ยินมั้ยที่เขาพูดกันว่าอย่าเล่นคอมพ์เวลาฝนฟ้าคะนอง เขาไม่ได้หลอกครับ โดนกันไปหลายรายแล้ว ถึงฟ้าจะไม่ผ่าบ้านเราตรงๆ แต่ไปผ่าลงในละแวกใกล้เคียงก็ตาม ความรุนแรงกินอาณาบริเวณมาถึงบ้านคุณได้ครับ มาถึงด้วยอะไร สายไฟและสายโทรศัพท์ไงครับ ตัวดีเลย ลองหาข้อมูลใน Google ดูภาพประกอบก็ได้ครับ เมนบอร์ดเอย โมเด็มเอย พังกันไปเป็นแถบครับ และถ้าเป็นเมนบอร์ดพังด้วยสาเหตุนี้ ส่งผลให้หมดประกันทันทีนะครับ เพราะอยู่นอกเหนือประกันนั่นเอง ทีนี้ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดใดก็ตาม จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีปราการด่านแรกที่รับมือกับสิ่งเหล่านี้ครับ

จำนวนปลั๊กไฟฟ้า
ปลั๊กต่างๆ ถือว่ามีความสำคัญค่อนข้างมากในการเลือกซื้อ UPS ในปัจจุบัน ยิ่งจำนวนปลั๊กเชื่อมต่อของ UPS มีมากเท่าไร ก็สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกมากขึ้นเท่านั้น จึงมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์เชื่อมต่อทั้งหลายจะมีความปลอดภัยมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ UPS ตามท้องตลาดของบ้านเรานั้นได้มีการเพิ่มปลั๊กสำหรับเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับปริ๊นเตอร์เลเซอร์กันมากขึ้น เพราะว่าราคาของปริ๊นเตอร์เลเซอร์นั้นมีราคาที่สูง ข้อเสียของปลั๊กนี้ก็คือไม่สามารถที่จะสำรองไฟไว้ได้
นอกจากพอร์ตที่ได้บอกมานี้ ยังมีช่องอีกชนิดหนึ่งที่คนให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเหมือนกันคือ ช่องสำหรับเสียบสายโทรศัพท์หรือสำหรับโมเด็ม เพราะพอร์ตเหล่านี้สามารถที่จะป้องกันความเสียหายจากกระแสไฟฟ้าแรงสูงที่ผ่านเข้ามาทางสายโทรศัพท์ได้ (เช่น กรณีฟ้าผ่า) ทำให้ลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ดังกล่าวได้อีกขั้นหนึ่ง
คุณสมบัติพิเศษอื่นๆ
- สิ่งที่จะทำให้ผู้บริโภคเห็นว่า UPS นี้มีคุณภาพนั้นก็คือ มาตรฐานของ UPS ที่ UPS นี้ได้รับ เช่น มาตรฐาน ISO 9001 หรือมาตรฐาน มอก. เป็นต้น
- แบตเตอรี่ซึ่งจริงๆ แล้วเมื่อท่านซื้อ UPS มาก็จะมีแบตเตอรี่อยู่ภายใน UPS นั้นแล้ว แต่เมื่อแบตเตอรี่เกิดเสื่อมขึ้นมา จึงจำเป็นต้องหา UPS ใหม่มาทดแทน ดังนั้นควรจะเลือกแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพ เพราะจะทำให้มีคุณภาพในการสำรองไฟเพิ่มมากขึ้น และมีอายุการใช้งานเพิ่มมากขึ้น
- ฟังก์ชั่นพิเศษ UPS ที่ดีนั้นควรจะต้องมีไฟแสดงสถานะการทำงานของเครื่องเพื่อที่จะทำให้ทราบว่าตอนนี้เครื่องอยู่ในสถานะใด อีกทั้งยังทำให้สามารถสังเกตเห็นสถานะการทำงานได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ UPS ที่ดีควรต้องมีเสียงเตือนเมื่ออยู่ในสภาวะอันตราย เช่น มีเสียงเตือนว่าไฟในแบตเตอรี่กำลังจะหมด เพื่อทำให้ผู้ใช้สามารถได้ยินได้อย่างชัดเจนและสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ทัน
- รูปทรงและขนาดของ UPS ก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน ควรเลือก UPS ที่มีขนาดและรูปทรงที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ และต้องดูว่าสถานที่ที่ท่านจะนำ UPS นี้ไปใช้มีขนาดของพื้นที่มากน้อยเท่าไรด้วย เพื่อที่จะได้มี UPS ที่มีขนาดที่เหมาะสมไว้ใช้งานกัน
สรุป
สิ่งที่ได้บอกมาในข้างต้นนั้นเป็นสิ่งที่ UPS ที่ดีควรจะมี เพราะเป็นสิ่งที่จะเพิ่มความปลอดภัยให้พีซีตัวโปรดของคุณให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้น ปลอดภัยจากสถานการณ์เฉียดตายต่างๆ ได้อย่างที่คุณต้องการ แต่ตามหลักความจริงแล้ว UPS ทุกเครื่องคงจะไม่มีเครื่องไหนที่มันสมบูรณ์แบบไปหมดหรอกครับ อาจจะมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ขาดไปบ้าง อันนี้ก็อยู่ที่คุณแล้วครับ ว่าจะตัดสินใจเลือกเครื่อง UPS แบบไหนไว้ใช้งาน ที่จะทำให้เกิดความคุ้มค่าและความปลอดภัยมากที่สุดนั่นเอง
ที่มา http://www.i3.in.th/news/view/44
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น